เกมมือถือน่าเล่น 2024 ใหม่ล่าสุดที่ไม่ควรพลาด!
“ศาสนาในสังคมไทย ไม่ได้กีดกันเลย เพียงแต่ว่าการบวช มันก็มีขอเขต กฎเกณฑ์ของการบวช ซึ่งต้องไปดูพระวินัย อาตมาเคยพูดไปแล้วในพระวินัย ในบัณเฑาะก์ 5 ประเภท มี 2 ประเภทเท่านั้นเองที่ท่านห้าม ประเภทแรกก็คือ เป็นประเภทที่ถูกตอนไปแล้ว ไม่มีอวัยวะเพศ หรืออาจจะแปลงเพศไปแล้ว ก็บวชไม่ได้ หรือคนมีสองเพศในเพศเดียวกัน หรือมีเพศที่ระบุไม่ได้ไม่ชัดเจน แต่อีกสามประเภท ที่มีลักษณะเบี่ยงเบน หรือรักร่วมเพศ ก็ได้ ท่านไม่ได้ห้ามเลย เพียงแต่ว่า มีข้อแม้ว่า เมื่อคุณมาบวชแล้ว คุณต้องละพฤติกรรมเหล่านั้น ให้หมด…” สิ่งที่ผมสนใจในเรื่องสั้นทั้งสองเรื่องนี้ก็คือ แม้โทนเรื่องของทั้งสองจะดูแตกต่างกัน แต่จุดร่วมกันอย่างหนึ่งก็คือ ‘คนอย่างเบญจ์’ ในการต่อสู้ทางการสังคมและการเมืองนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะเอาไปล้างสมองได้อย่างง่ายดายหรือฆ่าให้ตายแล้วก็จบ ‘คนอย่างเบญจ์’ เป็นเหมือนโครงการที่ไม่สิ้นสุด เพราะท้ายที่สุดแล้ว สังคมไทยจะมีคนแบบ ‘เบญจ์’ ที่คล้าย/เหมือน/เป็นอย่างในเรื่องสั้นทั้งสองเรื่องนี้ และอาจมีแนวโน้มที่จะ ‘รุนแรง’ มากขึ้นอีกด้วย คนอย่างเบญจ์เช่นนี้เองคือหนามยอกอกของคนรุ่นเก่าที่ไม่ยอมล้มหายตายจากไปสังคมไทยเสียที…. และ พฤษภาทมิฬ มีความแตกต่างกันในรายละเอียดอย่างไร แม้จะเคยเรียนและอ่านเรื่องราวดังกล่าวมาบ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความทรงจำในส่วนการเมือง ประวัติศาสตร์ชาติ หลายๆ อย่างเรื่องกลับถูกแทนที่ด้วยรัฐบาล คสช.